ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เหตุผลที่ทำไมภาษาโปรแกรมมิ่ง D ถึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการพัฒนา

ผมได้ไปอ่านบทความ 5 reasons the D programming language is a great choice for development เจอประเด็นน่าสนใจสองสามประเด็นดังนี้

Hello World ในภาษา D

เราจะมาเริ่มต้นกับการเขียนโปรแกรมในภาษา D ด้วยโปรแกรม "Hello World" กันเหมือนกับภาษา C กันเลยครับ

นี่คือโค้ดโปรแกรม  "Hello World" ในภาษา D
import std.stdio;

void main()
{
    writeln("Hello world!");
}
นามสกุลภาษา D คือ .d ให้ทำการบันทึกโค้ดลงไปเป็นไฟล์ hello_world.d
ต่อมาคอมไพล์โปรแกรมกัน
จากบทความที่แล้ว ผมได้บอกว่าคอมไพเลอร์ที่เราจะใช้เขียนโปรแกรมด้วยภาษา D กัน นั้นคือ DMD โดยคอมไพเลอร์นี้รองรับทั้ง 32 bit และ 64 bit มาเรียกใช้งานกันครับ
  1. เปิดคอมมาไลน์ขึ้นมา
  2. ใช้คำสั่ง cd เข้าไปยังโฟลเลอร์ที่เก็บ hello_world.d ไว้
  3. ป้อนคำสั่งคอมไพล์โปรแกรมลงไป
    $ dmd hello_world.d
    ใน Windows จะได้ไฟล์ hello_world.exe ขึ้นมา ลองรันด้วยคำสั่ง
    hello_world
    สำหรับระบบปฎิบัติการอื่นจะได้โฟลเลอร์ hello_world ขึ้นมา รันด้วยคำสั่ง
    $ ./hello
    จะได้ผลลัพธ์
    Hello world!
อธิบายโค้ดโปรแกรม  "Hello World"
ตรง
import std.stdio; นั้นคือ การดึงคำสั่งที่อยู่ใน std.stdio เข้ามา
void main(){} เป็นการประกาศฟังก์ชันหลักของโปรแกรม
writeln("Hello world!"); เป็นคำสั่งแสดงผลออกทางหน้าจอ
จะสงสัยเห็นได้ว่า มีไวยากรณ์คล้าย ๆ กับภาษาซีมากเลยครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ภาษา D คืออะไร

ภาษา D เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาหนึ่ง ใช้ในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นภาษาชนิดคอมไพเลอร์โดยรับช่วงต่อมาจากภาษาซี สามารถนำใช้งานประเภท System Programming และ Performance Programming ได้ และสามารถใช้ libraries ที่เขียนด้วยภาษา C ได้อีกด้วย ไวยากรณ์ของภาษา D  ส่วนใหญ่รับมาจากภาษา C / C++ ชนิดตัวแปรคล้าย ๆ กับภาษา Python นามสกุลของภาษา D คือ .d หน้าหลักภาษา D dlang.org

เหตุผลที่ทำไมภาษาโปรแกรมมิ่ง D ถึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการพัฒนา

ผมได้ไปอ่านบทความ 5 reasons the D programming language is a great choice for development เจอประเด็นน่าสนใจสองสามประเด็นดังนี้

Coedit IDE ของภาษา D

หลังจากที่ผมใช้วิธีการเขียนโปรแกรมภาษา D ด้วย Notepad ธรรมดา ๆ และคอมไพเลอร์โค้ดภาษา D ด้วยคอมมาไลน์โดยใช้ DMD 2 ทำให้เกิดความไม่สะดวกเมื่อต้องการดูโค้ด ผมจึงได้ไปค้นหา พบว่าบนภาษา D มี IDE ที่ชื่อว่า Coedit